วิเคราะห์วงการ Dota 2 ในปี 2559 โดย Richard Lewis

แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

วิเคราะห์วงการ Dota 2 ในปี 2559 โดย Richard Lewis

 

เรากำลังจะผ่านพ้นปีที่ Dota 2 ประสบความสำเร็จมากที่สุดไป ตลอดทั้งปี 2558 เราได้เห็นสถิติของผู้เล่นมากมายจากการเล่นเกมนี้และยังมีการอัพเดตครั้งยิ่งใหญ่ที่ Valve เปลี่ยนไปใช้เอ็นจินใหม่อย่าง Source 2 Engine โดยสมบูรณ์ ทางด้านทีมระดับแนวหน้าเองก็สนุกไปกับการชิงชัยที่พวกเขาได้แสดงสุดยอดผลงานและรับเงินรางวัลจากรายการแข่งขันต่างๆรวมกว่าหลายล้านดอลล่าสหรัฐ นี่ถือเป็นปีที่เยี่ยมยอดที่สุดจนทำให้เราไม่สามารถหยุดคาดหวังได้ จนต้องกลับมาถามตัวเองว่า “แล้วจะเป็นยังไงต่อไป” ถ้าจะให้พูดตามตรง ผมเองก็ไม่สามารถวิเคราะห์คาดเดาได้อย่างถูกต้องเหมือนกัน เพราะในปี 2558 ที่กำลังจะผ่านไป ได้เปลี่ยนทุกอย่างในเกมที่เราเคยมั่นใจว่าเรารู้ไปเสียหมดซะนี่ ยังไงก็ขอให้ถือว่านี่เป็นความพยายามในการคาดคะเนว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวงการ Dota 2 ในปี 2559 ที่กำลังจะมาถึง ผ่านการมองลูกนิมิตรของ Gaben ประธานผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Valve ก็แล้วกัน

รายการแข่งขัน The International จะยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก

 

อย่างน้อยเราก็มาเริ่มการคาดเดาที่ดูมีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในปีหน้ากันก่อนดีกว่า ซึ่งแน่นอนว่าการแข่งขันระดับนานาชาติที่ Valve เป็นผู้จัดจะยิ่งใหญ่กว่าทุกๆปีที่ผ่านมา เมื่อพิจารณาจากวิธีที่ผู้จัดใช้รวบรวมเงินรางวัลจากมวลชนสำหรับ TI แล้ว จะเห็นว่ายอดที่ได้มานั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก อย่างที่เห็นว่าตั้งแต่ TI3 ที่เริ่มมีการสะสมยอดเงินรางวัลจากแคมเปญของรายการ ทำให้ TI4 ในปีต่อมามีส่วนต่างของเงินรางวัลที่เพิ่มขึ้นจากเงินรางวัลตั้งต้นของ Valve ถึง 8 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในขณะที่ TI5 มีเงินรางวัลรวมทั้งหมดสูงขึ้นจากเงินรางวัลตั้งต้นถึง 16 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

 

ยิ่งมีการยกเครื่องใหม่เป็น Dota 2 Reborn ด้วย ทำให้ยิ่งหวังว่าการเปิดขาย Compendium ของปีนี้จะทำยอดขายได้ถล่มทลายกว่ารายการแข่งขันที่แล้วๆมา ตั้งแต่ที่เริ่มเปิดตัวใหม่ๆก็มีคำสรรเสริญชื่นชมเหล่าผู้พัฒนาเกมนี้อย่างมาก ที่ได้โฟกัสไปกับโหมดเกมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อย่าง Haunted Colosseum แผนที่ใหม่ซึ่งปล่อยออกมาให้เล่นกันรับเทศกาลฮาโลวีนที่ปล่อยให้ผู้เล่นทั้ง 10 ในเกมได้สนุกกับบรรยากาศน่าขนลุก เต็มไปด้วยกับดักและฝ่ายตรงข้าม จากที่กล่าวมาก็เพียงพอที่จะบอกว่าหาก Valve ขยับขยายเป้าหมายในการทำ Compendium ขึ้นมาเพื่อโหมดเกมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะได้ละก็ เราคงจะได้เห็นพวกเขาเลิกใช้วิธีสะสมเงินรางวัลแบบเก่าๆไปได้เลย

 

แม้ผมไม่สามารถเดาจำนวนเงินรางวัลที่เป็นตัวเลขเป๊ะๆได้ แต่การที่เกมได้รับความนิยมมากขึ้นทุกๆปีทำให้สามารถพูดได้ว่าเมื่อใกล้จะถึงการแข่ง TI6 ประมาณส.ค.ปีหน้า จะมีเงินรางวัลรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

 

ส่วนปัจจัยอื่นๆที่จะส่งผลให้ TI มีเงินรางวัลมากขึ้นเรื่อยๆนั้นเป็นปัจจัยธรรมดาโดยทั่วไปนี่เอง

 

ทีมจะร่วมแข่งในทัวนาเมนต์ต่างๆน้อยลง

 

แม้ว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งกรณีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 แล้ว แต่เป็นไปได้มากว่านอกจากรายการที่ Valve เป็นผู้สนับสนุนหลักแล้ว ในปีหน้าจะมีจำนวนการแข่งระดับนานาชาติน้อยลง ซึ่งจริงๆแล้วประเด็นนี้ก็ไม่ได้แย่ไปซะหมด เพราะผู้เล่นที่ชนะส่วนแบ่งเงินรางวัลจากการแข่งขันจะได้รับการการันตีว่าจะได้รับรายได้ที่มากขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องเดินสายแข่งจนเหนื่อยล้าหรือล้มป่วย แม้ว่าเหล่าแฟนคลับหมายเลข 1 จะต้องผิดหวังที่จะไม่ได้ดูเหล่าผู้เล่นคนโปรดโชว์ฟอร์มโหดบ่อยๆอีกแล้ว

 

ถ้าจะสันนิษฐานว่าผู้จัดหลักอาจจะหาที่ทางเพื่อจัดรายการแข่งขัน Dota ระดับภูมิภาคก็ดูจะมีความเป็นไปได้ จนถึงตอนนี้มีการจัดการแข่งขันระดับภูมิภาคไปแล้วที่ยุโรป(Frankfurt Major) และประกาศจัดการแข่งขัน Shanghai Major ขึ้นที่จีนแล้วด้วย อีกทั้งยังใกล้จะได้ดูรายการแข่งขันหลักอีก 2 รายการที่จะจัดขึ้นที่อเมริกาเหนือด้วย

 

จีนอาจจะฟอร์มถดถอย

 

เมื่อพ.ย.ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นท็อปโฟร์ของรายการแข่งขันที่จัดโดย Valve เป็นทีมจากชาติตะวันตกเสียเป็นส่วนใหญ่และหนึ่งในนั้นมีเพียง EHOME จากจีน(ภูมิภาคที่มีประวัติโดดเด่นในประวัติศาสตร์การเล่นเกม)ที่มาจากภูมิภาคอื่น ทีมจากแผ่นดินใหญ่ผ่านเข้าไปจนติดเป็นท็อปโฟร์ของการแข่งหลังจากเอาชนะ LGD และ Vici Gaming ในสายล่างจนมาแพ้ให้แก่ OG แชมป์ทัวนาเมนต์

 

ผลการแข่งนี้ไม่เพียงแค่ทำให้แฟนชาวจีนช็อค แต่ยังเป็นสัญญาณที่เป็นไปได้มากว่าหายนะกำลังจะมาเยือน แม้ว่าจะเคยเป็นแชมป์ TI ถึง 2 จาก 5 สมัย แต่ฟอร์มก่อน TI5 ก็ไม่ได้ดีมากไปกว่าทีมชั้นนำจากยุโรป ตั้งแต่ส.ค.ที่ผ่านมาจนหมดปี ทีมจีนก็ยังไม่สามารถคว้าแชมป์รายการหลักได้เลย เมื่อดูจากเหตุผลที่ทำให้เกิดเรื่องน่าผิดหวังเหล่านี้ขึ้นก็พบว่ามีคำอธิบายไม่มากนัก แต่สิ่งหนึ่งที่เด่นชัดมากก็คือการแข่งเกมของจีนเริ่มโตมาถึงจุดที่อิ่มตัวแล้ว

 

เป็นที่รู้กันว่าทีมจีนนั้นมีเงินทุนหนาที่สุดในกลุ่มภูมิภาคหลัก อย่างในตอนนี้ประเทศทางตะวันออกเองก็กำลังอิ่มเอิ่บไปกับกำไรก้อนโตที่ได้มาจากเว็บไซต์สตรีมมิ่ง เช่น Douyou, Longzhou และ Huya มีการเสนอเงินก้อนใหญ่เพื่อให้ผู้เล่นเหล่านั้นแข่งออนไลน์ถ่ายทอดสดบนเว็บไซต์ที่กล่าวมา บางข่าวลือก็เล่าว่ามีเงินรางวัลที่มากที่สุดรอผู้ชนะอยู่

 

การที่ทีมจากฝั่งตะวันตกกำลังผงาดขึ้นมาเป็นทีมแกร่ง ไม่ใช่เพียงเพราะความตกต่ำของทีมจีนเพียงเท่านั้น แต่สามารถพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาปรับตัวได้ดีกว่าเมื่อถึงคราวที่ต้องเปลี่ยนรายชื่อผู้เล่นในทีม และการผสมผู้เล่นมากฝีมือใหม่ๆในการแข่งขัน สามารถพาทีมไปสู่จุดสูงสุดได้

 

ทีมตัวแทนจากจีมมักจะให้ความสำคัญกับการทำผลงานให้ดีใน TI มากที่สุด ในขณะที่พวกเขามีแรงผลักดันที่จะโชว์ฟอร์มเก่งในรายการแข่งขันอื่นที่นอกเหนือจากที่ Valve จัดน้อยมาก ผมมั่นใจเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเราคงจะได้เห็นทีมจากจีนโชว์ฟอร์มแย่ต่อไป จนกว่า TI6 จะเริ่มต้นขึ้น

 

ดึงผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพ

 

นี่เป็นการตั้งสมมติฐานขั้นแรกที่อ้างอิงมาจากการสังเกต เริ่มที่ตอนนี้ทีมจากโซนตะวันตกมีความตั้งใจมากกว่าครั้งไหนๆที่จะสำรวจตรวจสอบผู้เล่นที่ไร้ประสบการณ์แต่มีความสามารถที่มีประสิทธิภาพ และกฎ Roster Lock (การอนุญาตให้ทีมเปลี่ยนผู้เล่นได้ภายในเวลาที่กำหนด หากฝ่าฝืนจะเสียสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งหลัก)

 

ตั้งแต่ที่การแข่งขัน Dota 2 Asian Championships ในเดือนก.พ. ที่ Sumail “SumaiL” Hassan Syed ผู้เล่นคนดังของทีม Evil Geniuses กลายมาเป็นส่วนสำคัญของทีมยักษ์ใหญ่จากอเมริกาเหนือในการเอาชนะ Vici Gaming ในการแข่งขันแบบออฟไลน์ครั้งที่ 2 ของเขา ซึ่งหลายๆครั้งทีมชั้นนำมักจะหาผู้เล่นหน้าใหม่มาเสริมทีมเสมอ เช่น Amer “Miracle’” al-Barqawi และ Omar “w33” Aliwi เป็นต้น

 

การให้ผู้เล่นเลือดใหม่แต่ละคนได้กูกรายล้อมไปด้วยผู้เล่นมากประสบการณ์ในทีม ได้กลายมาเป็นกุญแจสำคัญที่พาภูมิภาคนี้ไปสู่ความสำเร็จ และดูเหมือนว่าการนำเอาผู้เล่นเก่าที่มีประสบการณ์กลับมาใช้งานใหม่ จะกลายเป็นเรื่องที่ตกเทรนด์ไปแล้ว

 

ในขณะที่ การที่มีกฎ Roster Lock เพิ่มเข้ามานั้น ทำให้ทีมต้องคอยเตรียมพร้อมที่จะดึงเอาผู้เล่นที่ดูมีศักยภาพเข้าทีมในคราวที่โอกาสประจวบเหมาะ ซึ่งเหล่าผู้เล่นตั๋วเก๋าเองก็จะเด็ดเดี่ยวเรื่องการหาผู้เล่นใหม่ที่มีศักยภาพและสามารถได้รัยการขัดเกลาภายใต้การนำทีมที่เข้มงวดได้เช่นเดียวกันกับผู้เล่นใหม่ที่กล่าวไปข้างต้น

 

เน้นการปูพื้นฐานมากขึ้น

 

กฎ Roster Lock ที่จะมีผลบังคับใช้หลังการแข่ง Shanghai Major เป็นเวลาถึง 6 เดือนนั้น ทำให้ได้เวลาที่เหล่าโค้ชจะต้องตบเท้าเข้าสู่เกมการแข่งขัน Dota 2 อย่างจริงจังกันแล้ว เราได้เห็นตัวอย่างจากทีม Evil Geniuses และ Secret ที่มีโค้ชเข้ามาคุม ซึ่งผมรู้สึกว่าพวกเขาถูกบังคับให้เล่นด้วยกันนานขึ้นและมองว่านี่เป็นช่วงเวลาที่ทีมจะได้เล่นด้วยกันอย่างเต็มที่

 

ทีมอาจจะเคยวิเคราะห์คู่ต่อสู้เกี่ยวกับฮีโร่ที่เลือก/แบน และตรวจสอบแผนที่ การเคลื่อนไหว และการวางตำแหน่ง แต่เมื่อเพิ่มโค้ชที่มีอิทธิผลและสามารถผลักดันลูกทีมได้แล้ว ทำให้รู้สึกเหมือนได้ก้าวไปบนหินที่มั่นคงทีละก้าวๆ

 

ทีมที่ได้เข้าร่วมรายการแข่งขัน League of Legends Championship Series ต่างก็จ้างเจ้าหน้าที่ที่โฟกัสกับการพัฒนากลยุทธ์ และการจัดการความสัมพันธ์ระหว่าบุคคลที่ช่วยสร้างกลุ่มผู้เล่นให้กลายเป็นทีม การบังคับใช้กฎห้ามเปลี่ยนผู้เล่นจะเป็นการการันตีว่าทีมจะมีรายชื่อผู้เล่นที่มั่นคงเป็นระยะเวลานาน ส่วนการเพิ่มกำลังคนจะทำให้แน่ใจว่าทีมผู้เล่นจะเล่นได้อย่างดีที่สุดและมีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราคาดหวังในปี 2559

 

เดิมพัน Dota 2 และเกม eSports อื่น ๆ กับ Dafabet ได้ที่นี่