กว่าจะมาเป็น “กิตงาย” เด็กติดเกมสู่โปรเพลเยอร์ระดับประเทศ

กว่าจะมาเป็น "กิตงาย" เด็กติดเกมสู่โปรเพลเยอร์ระดับประเทศ
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

สำหรับคนที่เล่นเกม Arena of Valor (ROV) คงไม่มีใครไม่รู้จัก นาย กฤษฏา ปิมลื้อ ชื่อเล่นกิต หรือชื่อในวงการก็คือ กิตงาย โปรเพลเยอร์อายุ 21 ปี ที่เป็นไอดอลของนักเล่นเกม ROV ในไทย และได้รับความนิยมสูงสุด โดยดูได้จากยอดติดตามใน Youtube ที่มากถึง 2.5 ล้านคน (19/05/2562) หลายคนคงอยากทราบแล้วว่าแค่การเล่นเกม ๆ หนึ่งจะให้อะไรกับใครได้มากมายแค่ไหน ซึ่งกิตงายก็เป็นข้อพิสูจน์แล้วว่า การเล่นเกมไม่ใช่แค่เกมอีกต่อไป แต่เป็นกีฬาชนิดหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้านได้เลยทีเดียว

ความแตกต่างระหว่างเด็กติดเกมและโปรเพลเยอร์

“เด็กติดเกมจะเล่นเพื่อความสนุก ไม่มีการแบ่งเวลา ส่วนนักกีฬาจะมีการพัฒนาตัวเองอยู่สม่ำเสมอ มีการแบ่งเวลา มีการซ้อม วางแผนในการเล่นแต่ละวัน เมื่อเล่นจบจะดูว่าเรามีข้อดี-ข้อเสียตรงไหนและนำมาพัฒนาตัวเอง” กิตงายกล่าว

จุดเริ่มต้นการเข้ามาเป็นโปรเพลเยอร์ในวงการ ROV

กิตงายเริ่มต้นเล่นเกมด้วยความสนุกกับเพื่อน ๆ ตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ด้วยความสนุกทำให้เริ่มจริงจังกับการเล่นเกมมากขึ้น จนมีคนชวนเข้าทีมเพื่อไปแข่งขัน เดินทางจากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯ ครั้งแรก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นก็มีการแข่งเพื่อหาตัวแทนระดับประเทศ โดยครั้งนี้ชนะและได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยภายใต้สังกัดทีม Black Forest ในศึก Throne of Glory ประเทศเวียดนาม ในศึกนี้เองที่ทำให้กิตงายเป็นที่รู้จักในฐานะโปรเพลเยอร์ครั้งแรก หลังจากที่นั้นก็หมดสัญญากับทีมดังกล่าว โดยปัจจุบันกิตงายสังกัดทีม Debut และทำการฝึกซ้อมกับทีมอย่างต่อเนื่อง

เป็นโปรเพลเยอร์แล้วดีอย่างไร

แน่นอนว่าเมื่อมีชื่อเสียง เงินทองก็ย่อมไหลมาเทมา โดยกิตงายเปิดเผยว่าเขามีรายได้จากการสตรีมการีน่าไลฟ์ประมาณ 20,000-50,000 บาทต่อเดือน (รวมของขวัญจากแฟนคลับทางบ้าน) รายได้จากการทำช่อง Youtube รายได้จากการแข่งขัน รายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์และโค้ชในรายการ King of Gamer เป็นต้น ซึ่งสำหรับเด็กหนุ่มอายุ 21 ปี มีรายได้ 5-6 หลัก สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในสายอาชีพ eSports ไม่น้อยเลยทีเดียว

กิตงายเคยกล่าวในคลิป ๆ หนึ่งว่า สำหรับผู้เล่น ROV ที่มีความตั้งใจอยากจะเป็นโปรเพลเยอร์ ให้หมั่นฝึกฝน วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียของตนเองแล้วนำมาพัฒนา พยายามลงแข่งรายการต่าง ๆ เพื่อเก็บสะสมประสบการณ์และความรู้เพิ่มเติมต่าง ๆ เพื่อต่อยอด และหากสไตล์การเล่นของเราเข้าตาทีมใดก็จะได้รับการทาบทามให้ร่วมทีมฝึกฝนไปเป็นโปรเพลเยอร์ต่อไป