ภาคต่อเทพนิยายของ OG ที่สร้างเอาไว้ใน The International 2019

OG Team
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

การเดินทางของ OG เปรียบเสมือน ซินเดอเรลล่า ที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังจากสามารถทำลายแม่มดที่ชั่วร้ายลงได้อีกครั้ง

OG ไม่เพียงสร้างเทพนิยายเอาไว้เมื่อปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ที่ทำได้เสมือนภาคต่อของเทพนิยายดังกล่าวที่สามารถคว้าแชมป์  The International ของ esports Dota 2 ได้เป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

เรื่องราวของ OG ก่อนแข่งถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะกว่าจะรวบรวมสมาชิกให้กลับมาเล่นได้ก็หืดจับเต็มที่ แถมแชมป์เก่าไม่ได้กลับมาร่วมรายการในฐานะทีมเต็งแชมป์ ด้วยสาเหตุของการหายไปของ nathan “ana” Pham’s ที่หายไปเรียนเชฟร่วมๆ หกเดือน และผลการแข่งขันที่ไม่ถึงขั้นดีและไม่ถึงขั้นร้ายตลอดทั้งฤดูกาล ทว่าพอเข้ามาแข่งขัน The International 2019 จริงๆ เครื่องหมายคำถามในตัวพวกเขาก็เริ่มๆ หายไป

ทีมที่เคยเป็นแชมป์ TI มาก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีเส้นทางกลับมาป้องแชมป์แบบสวยหรูเหมือน OG อย่างเช่น Alliance แชมป์ TI3 แม้ว่าจะมีการทำการบ้านมาดีก่อนแข่ง แต่ก็ทำได้ไม่ดีจนไม่ผ่านเข้าไปเล่นรอบ เมนอีเว้นต์ ขณะที่แชมป์ Wings Gaming แชมป์ TI6 ทีมต้องพังในปีถัดมา เพราะฟอร์มทีมและแผนการเล่นไปกันไม่ได้

ส่วน OG มีการผสมผสานหลายๆ องค์ประกอบเข้ากันอย่างสมบูรณ์แบบ ที่ทุกตำแหน่งต่างไว้ใจซึ่งกันและกัน และการเล่นที่แปลกตาหากเทียบกับทีม esports อื่นๆ และตอนที่พวกเขาแพ้ พวกเขาสามารถปรับตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะเคยผิดพลาดมาบ้าง แต่พวกเขาหัวเราะให้กับมันเสมอ นี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้พวกเขาคว้าชัยได้ที่เซียงไฮ้

ผู้เล่น esports ส่วนใหญ่จะใช้ตัวฮีโร่ เมต้า หรือตัวที่เก่งที่สุดตามแพทช์นั้นๆ แต่ OG เลือกตัวละดรที่เหมาะสมแล้วแต่สถานการณ์ที่เจอ ไม่ว่าอีกฝั่งจะใช้ฮีโร่อะไรตำแหน่งอะไร พวกเขารับมือได้หมด

ปีที่แล้ว หลายคนอาจจะมองว่าพวกเขาแพ้เยอะ แต่ที่ได้แชมป์เพราะฟลุ๊ค แต่ปีนี้พวกเขาพิสูจน์แล้วว่าเจ๋งจริงด้วยฟอร์มระดับเทพ ตลอดทั้งรายการการแข่งขัน esports Dota 2

อย่างไรก็ตามนัดชิงดูเหมือนจะไม่ใช่คู่ชิงในฝันเหมือนที่หลายๆ คนหวังเอาไว้ เพราะการเจอกันของทีม esports OG และ Team Liquid รายหลังทำผลงานได้ไมค่อยดีในรอบแบ่งกลุ่ม ลงไปบู๊ในรอบเพลย์ออฟสายล่างกับ Fnatic ที่มีอันดับดีกว่าในรอบแบ่งกลุ่ม จนสามารถหักด่านเข้าถึงรอบ 6 ทีมได้ ขณะที่ OG เส้นทางสู่นัดชิงชนะเลิศสดใสเหลือเกิน มันทำให้คาดเดาได้ว่านัดชิง OG ถือว่ามีภาษีที่จะคว้าแชมป์มากกว่า Liquid

ขณะที่ Infamous ตัวแทนจากอเมริกาใต้ กลับมาเล่น TI อีกครั้ง หลังจากปีก่อนไม่ผ่านรอบคัดเลือก การกลับมาครั้งนี้พวกเขาเล่นได้แข็งแกร่ง เหมือนทีมระดับท็อปของโลก และไม่กลัวที่จะใช้ฮีโร่ที่ตัวเองถนัดมากกว่าจะเลือกฮีโร่เมต้า ซึ่งวิธีนี้มีเพียงสามทีมเท่านั้นที่กล้าทำ และมีเพียงสองทีมของรายการนี้ที่เลือก Monkey King คือ OG และ Infamous เท่านั้น

ตัวแทนจากเปรู เข้ารอบมาลึกพอสมควรก่อนจะแพ้ Team Secret แต่ถึงแพ้ก็ได้ใจแฟนๆ หลายๆ คน เพราะเลือกที่ไม่ใช่ตัวเมต้า ที่ได้เปรียบในแพทช์นั้นๆ และจบอันดับ 8 ของรายการไปครอง

หลายๆ ทีมอาจจะมาไกลเกินกว่าที่คิด แต่สำหรับบางทีมกลับรู้สึกว่ามันน่าผิดหวัง อาทิ Team Secret ที่จบอันดับสี่ ทั้งที่ปีนี้พวกเขาขนผู้เล่นระดับออลสตาร์มาเต็มทีม จนถูกยกเป็นตัวเต็งที่จะได้ครองถาด Aegis of Champions เสียด้วยซ้ำ

บทเรียนที่ดีอย่างหนึ่งที่เราสามารถเรียนรู้จากการแข่ง esports Dota 2 คือไม่ควรซีเรียสกับมันมากไป แน่นอนว่าบางคนจำเป็นต้องเล่นเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว บางคนเล่นเพราะสนุกกับมัน อย่างเช่นทีม OG, Liquid และ Infamous ถูกยกให้เป็นทีมที่เล่นด้วยความสนุก และพวกเขาก็สามารถเดินมาได้ไกลกว่าหลายๆ ทีม ตามความเห็นของ dafaesports

The International 2020 จะกลับมาจัดการแข่งขันที่กรุงสตอกโฮล์มประเทศสวีเดนในปีหน้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างนี้และไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น การขอพักของผู้เล่น แต่พวกคุณต้องรู้ไว้ว่าเราจะได้ดูรายการแข่ง Dota 2 ในปีที่ 10 และในช่วงที่ยังไม่ถึงตอนนั้น ทุกๆ คนควรพักผ่อน และเล่นเกม esports Dota 2 ให้มีความสุข