อีสปอร์ตเกมใด เล่นแล้วรวยที่สุด!

อีสปอร์ตเกมใด เล่นแล้วรวยที่สุด!
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

ถึงแม้ Dota 2 เป็นอีสปอร์ตที่มีเงินรางวัลโดยรวมสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก (โดยเฉพาะรายการชิงแชมป์สโมสรโลก The International ที่ปีก่อนมีรางวัลรวมสูงถึง 24.7 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 770 ล้านบาท) แต่ข้อมูลล่าสุดที่ถูกเปิดเผยจากวงในอีสปอร์ตต่างประเทศชี้ว่า แท้จริง “NA LCS” หรือลีกแข่ง League of Legends ประจำทวีปอเมริกาเหนือ คือ วงการแข่งขันอีสปอร์ตระดับอาชีพที่มีค่าเหนื่อยนักกีฬาสูงที่สุดเท่าที่มีการเปิดเผย

พื้นฐานรายได้ผู้เล่น’

ก่อนจะพูดถึงรายละเอียดตัวเลข ขอเล่าเรื่องที่บางคนอาจยังไม่ทราบว่า การบริหารทีมอีสปอร์ตในต่างประเทศนั้น เงินรางวัลจากการแข่งจะไม่ได้เข้ากระเป๋านักกีฬา แต่ถูกเก็บเข้าต้นสังกัด โดยต้นสังกัดจะเป็นผู้จ่ายเงินเดือน (+โบนัส) ให้นักกีฬา ทำให้รูปแบบการจ้างงานแทบไม่ต่างจาก “พนักงานบริษัท”

และเหตุผลที่ Dota 2 ไม่ได้ครองแชมป์อีสปอร์ตที่มีค่าจ้างแพงที่สุด เนื่องจากต้นสังกัดจะมีหลักการจ่ายเงินที่แตกต่างกันออกไป เนื่องจาก Valve ไม่ได้กำหนดอัตราการจ่ายเงินที่ตายตัว แต่ละทีมจึงมีมาตรฐานไม่เท่ากัน ยกตัวอย่าง Team Liquid ทีม Dota 2 ชื่อดังอาจมีการกำหนดค่าเหนื่อยผู้เล่นไว้ที่ 250,000 – 500,000 บาท/เดือน ขณะที่ทีมในไทยจะมีค่าแรงเฉลี่ยอยู่ที่ราวๆ 15,000 บาท ส่วนนักกีฬาของ Boom.ID ทีมดังจากอินโดนีเซียจะมีเงินเดือนอยู่ที่ 5,000 – 10,000 บาท ซึ่งวงการ CSGO ก็มีรูปแบบการจ่ายค่าเหนื่อยที่กระจัดกระจายไม่แพ้ Dota 2

นั่นหมายความว่า เมื่อเอาค่าตัวเฉลี่ยกันจะทำให้เงินเดือนของ CSGO และ Dota 2 ถือว่าธรรมดามาก หากเทียบกับ LoL ของ Riot และ Overwatch League ของ Blizzard ที่กำหนดให้แต่ละทีมต้องจ่ายเงินผู้เล่นที่ “150,000 ดอลล่าร์/ปี”

‘NA LCS ค่าเหนื่อยสูงสุดในโลก’

แต่ล่าสุด Romain Bigeard ผู้จัดการทีม Optic Gaming ได้ออกมาเผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ตอนนี้ NA LCS กลายเป็นลีกที่มีการจ่ายค่าเหนื่อยให้ผู้เล่นสูงสุดในโลกเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากมีการเก็บสถิติว่า ตอนนี้รายได้เฉลี่ยต่อหัวของนักกีฬาในลีกอเมริกาเหนืออยู่ที่ประมาณ “26,600 ดอลล่าร์/เดือน” (ประมาณ 8.3 แสนบาท) ขณะที่ลีกยุโรปมีค่าแรงประมาณ “6,700 ดอลล่าร์/เดือน” (2 แสนบาท) เท่านั้น

ส่วน “LCK” (ลีกเกาหลีใต้) แม้จะมีตัวช่วยดึงค่าเฉลี่ยอย่าง “Faker” (Lee Sang-hyeok) ที่รับเงินจาก SK Telecom T1 เดือนละ 2.2 แสนดอลล่าร์ (6.7 ล้านบาท) แต่ในภาพรวมโปร LoL แดนโสมขาวยังมีค่าเงินเดือนเพียง “7,500 ดอลล่าร์” (230,000 บาท)

สาเหตุที่ค่าเหนื่อยของนักกีฬา LoL ในสหรัฐฯ พุ่งพรวดในปีหลังๆ มาจากจำนวนผู้ชมชาวมะกันที่แม้จะเป็นรองจีน แต่มูลค่าการจับจ่ายใช้สอยของชาวมะกันสูงกว่าประเทศอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ทำให้นักลงทุนกระเป๋าหนักของสหรัฐฯ กล้าพอที่จะทุ่มเงินในการทำทีมอีสปอร์ตแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยนั่นเอง