6 เหตุการณ์ในอดีตที่พลิกชีวิต Faker!

6 เหตุการณ์พลิกชีวิต Faker
แชร์ข่าว
Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter

Lee “Faker” Sang-hyeok ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่น League of Legends ที่มีเส้นทางการโลดแล่นในวงการที่โดดเด่นและมีสีสันมากที่สุดในวงการ ตลอดเวลา 5 ปีในการแข่งอาชีพ Faker ชนะการแข่งขันอย่างท่วมท้น มีสาวกผู้จงรักภักดีที่ยกย่องให้เจ้าตัวเป็นดั่ง “พระเจ้า” แถมฤดูกาลหน้า SK Telecom T1 (SKT) ต้นสังกัดยังทุ่มดึงผู้เล่นระดับแถวหน้าเข้ามาช่วยพระเจ้าไล่ล่าแชมป์ด้วย

ทว่าถ้าลองมองย้อนกลับไปในอดีต แล้วเปลี่ยนองค์ประกอบในหน้าประวัติศาสตร์บางอย่างของ SKT บางคนเชื่อว่า บางทีชื่อเสียงของ พระเจ้า อาจเพิ่มพูนเป็นเท่าทวี หรือไม่ก็อาจจะไม่เป็นที่รู้จักอย่างที่เป็นเช่นทุกวันนี้

1.ถ้าดวลแพ้ Ryu

Faker ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ของ SKT ในปี 2013 และแจ้งเกิดอย่างรวดเร็วโดยการโซโลคิล Kang “Ambition” Chang-yong (สมัยอยู่ CJ Blaze) ตั้งแต่เกมแรกที่ได้โอกาสลงสนามด้วยวัย 16 แต่นั่นก็ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่พระเจ้าแสดงให้เห็นเป็นปกติเหมือนการใช้ชีวิตประจำวันโดยทั่วไป

จนกระทั่ง เกม Zed Mirror Match ปราบ Yoo “Ryu” Sang-wook มิดเลนทีมคู่ปรับตลอดกาล KT Rolster (Bullets) ที่กลายเป็น “ช็อตการเล่นที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ LoL” ส่งผลให้พระเจ้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และเปิดโอกาสให้เจ้าตัวยึดตำแหน่งตัวจริงถาวรและคว้าแชมป์โลกสมัยแรกกับต้นสังกัดอย่างมหัศจรรย์

น่าคิดเหมือนกันถ้าจังหวะนั้น Faker แพ้ Ryu จุดเริ่มต้นการผจญภัยของมิดเลนรายนี้จะพลิกผันขนาดไหน

https://www.youtube.com/watch?v=YFCpCajop9k

2.ถ้า Wh1t3zZ ซื้อ Ward

ขยับจากเหตุการณ์แรกมาดูเรื่องราวสมัย SKT ตะลุย World Championship 2013 กันดีกว่า ตอนนั้นถึงแม้ทีมจากเกาหลีใต้จะเต็มไปด้วยผู้เล่นที่น่าจับตามอง แต่ถือเป็นยุคแรกเริ่มที่ชื่อชั้นและความเก๋ายังไม่เท่าทุกวันนี้ แม้จะโชว์ฟอร์มแกร่งเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศกับ Royal Club (ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น RNG) ที่ผู้บรรยาย 3 ใน 4 คาดเดาว่าจะเป็นแชมป์ในบั้นปลาย

และช่วงแรกเกมก็เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาด Lo “Wh1t3zZ” Pun-Lai มิดเลนทีมจีนที่เล่น Orianna กดดัน Gragas ของ Faker ได้อยู่หมัด บังคับให้พระเจ้าต้องวาร์ปกลับบ้านหลายต่อหลายครั้ง แต่เรื่องราวกลับพลิกตาลปัด เมื่อ Wh1t3zZ เลือกซื้อ Potion แทนที่จะเป็น Ward เลยโดน Faker และคู่หูแห่งยุค Bae “Bengi” Seong-woong ตัวป่าของทีมแก๊งจนสิ้นท่าปราชัยไปในเกมแรก ไม่เพียงแค่นั้น ผลกระทบจากเกมแรกที่ทำให้ Royal Club ขวัญหนีดีฝ่อลุกลามให้พวกเขาเล่นผิดพลาดต่อเนื่อง ทำให้ SKT คว้าแชมป์โลกสมัยแรกไปครองอย่างยิ่งใหญ่และหักปากกาเซียน

https://clips.twitch.tv/AcceptableAmorphousPigOSsloth

3.ถ้ามิดเลนรุ่นพี่เล่นชนะเกม 3

แทบจะเป็นไปไม่ได้ถ้าจะให้จินตนาการถึง SKT ที่ไม่มี Faker แต่มันก็เคยเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งสมัยที่ทีมลุยศึก MSI 2015 ตอนนั้น มิดเลนซุป’ตาร์ต้องสลับสับเปลี่ยนกันลงสนามกับนักแข่งตำแหน่งเดียวกัน (ที่อายุมากกว่า) Lee “Easyhoon” Ji-hoon ที่ทำผลงานดีต่อเนื่อง จนได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมรอบชิงกับ Edward Gaming (EDG)

เกมแรก Easyhoon ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมพาทีมเก็บชัยชนะไปก่อนด้วยสกอร์ 9/0/8 จากการเล่น Cassiopeia แต่ทีมคู่แข่งจากประเทศจีนก็เอาคืนได้ในเกม 2 และขึ้นนำในเกม 3 (จากระบบการเล่นแบบ Bo5)

เพื่อพยายามขัดขืนไม่ให้ EDG เอาชนะได้ง่ายๆ ในเกมชิงดำ Kim “kkOma” Jung-gyun หัวหน้าโค้ช SKT เลยตัดสินใจเปลี่ยนอาวุธลับอย่าง Faker ลงมาแทน Easyhoon และ พระเจ้าในวัยกำลังห้าวก็พาทีมเอาชนะเกม 4 ตีเสมอ EDG เป็น 2-2 ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแม้เกมชิงดำทีมจากจีนจะคว่ำ SKT ได้สำเร็จ แต่ฤดูกาลต่อมา ปรากฏว่า โค้ช kkOma แต่งตั้งให้ Faker เป็นมิดเลนตัวจริงถาวร และศิษย์รักก็ไม่ทำให้ผู้เป็นอาจารย์ผิดหวัง สามารถพาทีมครองแชมป์ LCK Summer และ Worlds 2015 แชมป์สมัยที่ 2 จาก 3 สมัยได้สำเร็จ

คิดเล่นๆ ถ้า Easyhoon ที่ได้รับโอกาสก่อน Faker ใน MSI สามารถปิดเกมพาทีมคว้าแชมป์ได้ ทุกวันนี้อาจไม่มีตำนานที่ชื่อ Faker ก็เป็นได้

4.ถ้า Impact ไม่ย้ายออกจากทีม

ตำแหน่งเลนบนของทีม SKT ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงบ่อยมากถึงมากที่สุด Lee “Duke” Ho-jong, Gang “MaRin” Geong-hwan รวมถึงผู้เล่นรุ่นน้องอย่าง Heo “Huni” Seung-hoon ถือว่าทำผลงานตัวเองได้ดี (แม้รายหลังจะฟอร์มร่วงเร็วไปนิด) แต่ต้องยอมรับเลยว่า ไม่มีใครที่ฝีมือโดดเด่นไปกว่า Jung “Impact” Eon-yeong ที่เลือกตัดสินใจย้ายออกจาก LCK ในช่วงเวลาที่ผลงานในสนามของตนสุกงอม

ทุกวันนี้ Impact ในวัย 23 ปี ยังค่าแข้งอยู่โยงในลีกอเมริกาเหนือ (LCS) พา Team Liquid กวาดถ้วยลีกมากมาย แถมปัจจุบันยังเป็นผู้เล่นที่ได้รับการยอมรับ ดีที่สุดในตำแหน่ง Top Lane ของภูมิภาค

ไม่แน่ว่า ถ้าพ่อหนุ่ม Impact วงษ์คำเหลา ไม่ย้ายออกจาก SKT พระเจ้าอาจจะไม่มือเปล่านานขนาดนี้ก็ได้

5.ถ้า Bengi ไม่ทิ้งทวนในฤดูกาล 2016

Faker หนึ่งในผู้เล่นไม่กี่รายที่พาทีมคว้าแชมป์โลกถึง 3 สมัยในประวัติศาสตร์ของ LoL แต่ต้องยอมรับว่านับตั้งแต่ปี 2013 ที่ผลงานของทีมเปล่งปลั่งถึงขีดสุด ช่วงหลังๆ ผลงานในเวทีระดับโลกก็ยากขึ้นเรื่อยๆ สภาพทีม และการทำผลงานที่โดดเด่นของคู่แข่ง

ในการแข่งขัน Worlds 2016 คู่แข่งที่หินที่สุดของ SKT หนีไม่พ้น ROX Tigers สมัยที่มี Smeb, Peanut, Kuro, PraY และ GorillA ที่อัด EDG แชมป์ลีกจีนมาได้ด้วยสกอร์รวม 3-1

ปีนั้น Bengi คู่หูในตำแหน่งตัวป่าของพระเจ้าแทบจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมเท่าไรนัก ถูกจับนั่งเป็นสำรอง Kang “Blank” Sun-gu แทบจะทั้งฤดูกาล แต่ถึงกระนั้น โค้ช kkOma ยังเชื่อมั่นในฝีมือปล่อยแกลงสนามในเกมที่ต้องเอาจริง และ Bengi ก็ปล่อยผี ทำผลงานได้โดดเด่นเล่นได้น่าประทับใจ (โดยเฉพาะการจับ Nidalee เป็นครั้งแรกในฐานะโปร) พาทีมเอาชนะพี่เสีย กรุยทางสู่แชมป์หนที่ 3 ซึ่งเป็นแชมป์โลกหนล่าสุดได้สำเร็จ ก่อนที่เจ้าตัวจะย้ายออกจาก SKT ในเวลาต่อมา

หากไม่มี Bengi ในวันนั้น ผู้เล่นป่าอาจจะเป็น Blank และแชมป์โลกสมัยที่ 3 อาจไม่ถูกจารึกในโปรไฟล์ของพระเจ้าก็เป็นได้

6.ถ้าพระเจ้าย้ายออกจาก SKT

มาถึงการตั้งสมมุติฐานสุดท้าย ย้อนกลับไปในช่วงที่วงการ LoL จีนกำลังเริ่มเอาจริงเอาจังมากกว่าที่เป็นมาในปี 2014 ทีมดังจากแดนมังกรเริ่มทุ่มเม็ดเงินก้อนโตดึงผู้เล่นและโค้ชเกาหลีใต้เข้าไปอยู่ภายใต้ชายคาของตนเอง แน่นอนว่า Faker ที่หมดสัญญากับทีมก็เป็นผู้เล่นที่ได้รับข้อเสนอมากมาย และที่สำคัญมีข่าวลือว่า เงินค่าจ้างในตอนนั้นอาจจะมากกว่ารายได้ที่พระเจ้าได้รับปีละ 2.5 ล้านดอลล่าร์ (ประมาณ 80 ล้านกว่าบาท) ในทุกวันนี้เสียด้วยซ้ำ

สุดท้าย สิ่งที่พระเจ้าตัดสินใจก็เป็นอย่างที่หลายคนคาดหวัง คือ ให้ความสำคัญกับเกมในสนามและผลงานของทีมมากกว่าตัวเงิน และแน่นอน SKT ถือเป็นบ้านที่ตอบสนองความต้องการในด้านการแข่งขันให้ Faker อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจากนี้ไปผู้เล่นมิดเลนรายนี้จะประสบความสำเร็จกับ SKT หรือไม่ก็ตาม สิ่งที่สาวกพระเจ้าเข้าใจตรงกัน “ถ้า” วันนั้น Faker ย้ายออกจากทีม คงไม่มีตำนานผู้เล่นที่จงรักภักดีกับต้นสังกัดเฉกเช่นทุกวันนี้