Team Liquid มีโอกาสกลับมากู้ชื่อเสียงในฐานะทีมเบอร์หนึ่งของโลกจากอ้อมอกของ ASTRALIS อีกครั้ง ทว่าก็เข้าอีหรอบเดิม หลังจากโดน ASTRALIS สวีป 2-0 คว้าแชมป์ BLAST PRO SERIES FINALS ไปครอง
แมพแรก : Inferno
Inferno คือแมพที่ Team Liquid เลือก ทว่าเล่นจริงกลับไม่ได้เปรียบ และต้องสังเวยไป 8 รอบ กว่าจะตั้งตัวได้ ส่วนหนึ่งเพราะโดน Magisk ทะลุทะลวงยากแก่การป้องกัน ซ้ำยังมี Gla1ve เข้ามาเสริมด้วยระเบิดควัน ทำให้ Team Liquid ต้องเจอกับสถานการณ์ 1 ต่อ 2 หรือ 1 ต่อ 1 ตลอดทั้งเกม พอผ่าน 8 รอบไป ASTRALIS พยายามปิดเกมด้วยการเน้นเดินหน้ามากขึ้น และยกแรกไปด้วยสกอร์ 11-4
พอเข้ายกสองเหมือนจะเข้าทาง ASTRALIS เพราะสำหรับแมพนี้พวกเขาถนัดเล่นเป็นฝั่ง T อยู่แล้ว แต่ Team Liquid มาดีกว่าที่คิด เก็บไปได้ 4 รอบรวด ทำให้ ASTRALIS ต้องแก้เกม ไม่ปลายให้ทีมอยู่ในสถานการณ์ 2 ต่อ 2 และ Peter ‘dupreeh’ Rasmussen กับ 88.8 ADR ก็ทำผลงานได้เยี่ยม จบด้วยสกอร์ 1.37 พาทีมเก็บแมพแรกไปได้ 16-11
แมพสอง : Nuke
การป้องกันของ Liquid เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้นในแมพ Nuke โดยเฉพาะกับ Stewie2K และ Elige ที่คุมเกมได้อยู่หมัด บังคับ ASTRALIS มาวัดกันที่ทางลาด โกยแต้มไปได้ก่อนในช่วงแรก แต่ Astralis แก้เกมมาได้อย่างน่าทึ่ง พวกเขาเน้นและออก Krieg ที่เป็นปืนเมต้าของแพทช์ออกมาสู้ ซึ่งมันได้ผลพวกเขาตีเสมอได้ 7-7 ก่อนที่รอบสุดท้ายในยกแรกจะเสียให้กับ Liquid 7-8
อย่างที่รู้กันมาหลายปี Nuke คือแมพโปรดของ Astralis และนี่เป็นอีกเกมที่พวกเขายืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี Gla1ve เด่นมากๆ แมพนี้เก็บคู่แข่งเลขสองหลักไปแล้ว พาทีมตีเสมอเป็น 10-10 ความต่างมันยิ่งชัดเจนขึ้น เมื่อ Astralis อยู่ฝั่ง T พวกเขาอาศัยการวางระเบิด จนสามารถปิดแมตช์ไปได้ 16-12 คว้าแชมป์ไปครอง
Dafaesports รายงานว่า Astralis คว้าแชมป์รายการที่สี่ให้กับตัวเองไปแล้วในปี 2019 โดยสี่รายการนี้เป็นรายการใหญ่ถึงสองรายการด้วยกัน ทำให้อันดับโลกของพวกเขาจากการจัดอันดับของ HLTV พวกเขาจะเป็นทีมที่ดีที่สุดของโลก ขณะที่ Liquid อยู่ในอันดับที่ 4 โดย dupreeh ของ Astralis คว้า MVP รายการ Blast Global Finals ไปครอง