เราจะมาดูกันว่าตั้งแต่เริ่มจนถึงรอบชิงชนะเลิศ จะมีขั้นตอนเป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ Overwatch League 2019
ถือเป็นฤดูกาลที่ยาวนานสำหรับ Overwatch รายการใหญ่ในวงการ esports ที่ต้องเฟ้นหาสุดยอดทีม 20 ทีม เข้าร่วมแข่งรอบสุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยจะเริ่มการคัดเลือกตั้งแต่ 30 สิงหาคม ก่อนที่การแข่งขันช่วงที่สองจะเริ่มขึ้นเป็นลำดับถัดไป
ปีที่ผ่านมาที่ ลอนดอน สปิตไฟร์ เป็นการแข่งชิงแชมป์ลีกเป็นหนแรกที่สนาม บาร์เคลย์ เซนเตอร์ ที่ นิวยอร์ค ซิตี้ โดยปีนี้จะมี 12 ทีม ที่จะเข้าสู่การแข่งขันรอบสุดท้าย เพื่อกรุยลุ้นไปสู่รอบ แกรนด์ ไฟน่อล ที่จะจัดการแข่งขันกันขึ้นในวันที่ 29 กันยายนที่ ฟิลาเดลเฟีย ชิงเงินรางวัลกว่า 1.1 ล้านเหรียญสหรัฐตามรายงานของ Dafaesports
พวกเราสามารถติดตามพวกเขาได้ที่ช่องทางไหนกันบ้าง
การสตรีม
แฟนๆ ของ Overwatch League มีหลายทางเลือกในการรับชม และทุกเกมจะถูกสตรีมส่งเข้าเว็บ OverwatchLeague.com และ Overwatch League บนช่อง Twitch สองที่นี้เปิดโอกาสให้แฟนๆ ของลีก เข้าไปดูได้ และรับโบนัสโทเคนในเกมได้อีกด้วย
ส่วนช่วงต้นของต้นฤดูกาลส่วนใหญ่ ESPN News และ Disney XD เป็นช่องออกอากาศ แต่ต้องเช็คด้วยว่าแต่ละในละพื้นที่สามารถรับสัญญาณได้หรือไม่ ส่วน Overwatch League รอบแกรนด์ไฟน่อล จะถ่ายทอดสดผ่านช่อง ABC ทีมที่เข้าแข่งขัน
หกทีมที่มีอันดับที่ดีที่สุดในลีกจะได้เข้ารอบเพลย์ออฟอัตโนมัติ
- First seed (Pacific Division leader): Vancouver Titans
- Second seed (Atlantic Division leader): New York Excelsior
- Third seed: San Francisco Shock
- Fourth seed: Hangzhou Spark
- Fifth seed: Los Angeles Gladiators
- Sixth seed: Atlanta Reign
หกอันดับสูงสุดถัดไปจะถูกคัดเลือกให้เหลือสองทีม เพื่อไปเล่นรอบเพลย์ออฟ
- Seventh seed: London Spitfire
- Eighth seed: Seoul Dynasty
- Ninth seed: Guangzhou Charge
- 10th seed: Philadelphia Fusion
- 11th seed: Shanghai Dragons
- 12th seed: Chengdu Hunters
รูปแบบการเล่น
จะมี 6 ทีมวางที่รออยู่ในรอบเพลย์ออฟอยู่แล้ว ในระหว่างที่รอวันที่ 30 สิงหาคม อันดับ 9-12 จะการคัดเลือกด้วยระบบเกมเดียวรู้ผล ซึ่งการแพ้เพียงเกมเดียวก็อาจจะทำให้คุณหลุดออกจากรายการทันที ก่อนที่จะหาสองทีมไปแข่งกับทีมอันดับ 7-8 ในวันที่ 31 สิงหาคม ทีมที่ชนะ จะผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟของจริง
รอบเพลย์ออฟจริงๆ จะแข่งกันในวันที่ 5 กันยายน จะเล่นด้วยระบบ double elimination แพ้ได้สองครั้งถึงจะออกจากการแข่งขัน โดยทั้ง 8 ทีม จะแข่งกันจนเหลือแค่สองทีมที่จะแข่งกันในนัดแกรนด์ไฟน่อล
ทุกๆ เกมเพลย์ออฟ รวมถึงตอนที่เพลย์อิน ในหนึ่งถึงสี่รายการซีรี่ย์ จะทำให้ทีมอันดับสูงได้เปรียบ ในการเลือกแมพก่อนในเกมนั้น หลังจากนั้นทีมแพ้ถึงจะได้โอกาสเลือกในแมพต่อไป
นี่คือตารางการแข่งขัน วันและเวลา สำหรับรอบเพลย์ออฟในแต่ละนัด
วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน
แมตช์ 1 : Vancouver Titans vs. Eighth seed (play-in winner): 6pm CT
แมตช์ 2 : Hangzhou Spark vs. Los Angeles Gladiators: 9pm CT
วันศุกร์ที่ 6 กันยายน
แมตช์ 3 : New York Excelsior vs. Seventh seed (play-in winner): 6pm CT
แมตช์ 4 : San Francisco Shock vs. Atlanta Reign: 9pm CT
วันเสาร์ที่ 7 กันยายน (ทีมแพ้สายล่าง)
ทีมที่แพ้แมตช์ 1 vs ทีมที่แพ้แมตช์ 2 8pm CT
ทีมที่แพ้แมตช์ 3 vs ทีมที่แพ้แมตช์ 4 11pm CT
วันอาทิตย์ที่ 8 กันยายน (ทีมชนะสายบน)
ทีมที่ชนะแมตช์ 1 vs ทีมที่ชนแมตช์ 2 2pm CT
ทีมที่ชนะแมตช์ 3 vs ทีมที่ชนแมตช์ 4 5pm CT
วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน (ทีมแพ้สายล่าง)
ทีมที่แพ้แมตช์ 8 vs ทีมที่แพ้แมตช์ 5 6pm CT
ทีมที่แพ้แมตช์ 7 vs ทีมที่แพ้แมตช์ 6 9pm CT
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน (ทีมชนะ รอบรองชนะเลิศ)
แมตช์ 11 ทีมที่ชนะแมตช์ 7 vs ทีมที่ชนะแมตช์ 8 6pm CT
วันเสาร์ที่ 14 กันยายน (ทีมแพ้สายล่าง)
แมตช์ 12 ทีมที่ชนะแมตช์ 9 vs ทีมที่ชนะแมตช์ 10 2pm CT
วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน (ทีมแพ้สายล่างรอบรองชนะเลิศ)
แมตช์ 13 ทีมที่แพ้แมตช์ 12 vs ทีมที่แพ้แมตช์ 11 2pm CT
หลังจากที่จบการแข่งขัน esports Overwatch ในวันที่ 15 กันยายนแล้ว ก็จะเหลือทีมเพียงสองทีมที่จะได้เดินทางไปเล่นรอบแกรนด์ไฟน่อล Overwatch League season two ในวันที่ 29 กันยายน โปรดอย่าลืมรับชมว่าแชมป์ปี 2020 ว่าจะเป็นทีมไหนกันแน่?